ใครที่กำลังรู้สึกว่าหน้าหย่อนคล้อย แก้มเริ่มตก หรือผิวไม่เฟิร์มเหมือนก่อน การทำ Thermage อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้! เพราะเทคโนโลยีนี้ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวกลับมาเต่งตึง ดูเรียบเนียนโดยไม่ต้องผ่าตัด
Thermage คืออะไร?
Thermage เป็นวัตกรรมยกกระชับผิวหน้าที่ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ลงลึกไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวเต่งตึง แลดูเรียบเนียน ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้ชัดเจนขึ้น
เครื่อง Thermage ทำงานอย่างไร
เครื่อง Thermage จะปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูงลงไปยังชั้นผิวลึก (Dermis) โดยไม่ทำลายผิวด้านนอก ความร้อนจากคลื่นนี้ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นขึ้นและริ้วรอยดูจางลง กระบวนการนี้ยังช่วยปรับสภาพผิวโดยรวมให้เรียบเนียนขึ้น หลังทำสามารถเห็นผลทันทีและจะเห็นผลชัดเจนขึ้นใน 2–6 เดือน เนื่องจากคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เครื่องThemage มีทั้งหมดกี่รุ่น? รุ่นอะไรบ้าง
เครื่อง Thermage มีหลายรุ่นให้เลือก แต่ละรุ่นเหมาะกับปัญหาผิวและความต้องการต่างกัน ดังนี้
1. Thermage NXT
รุ่น NXT เป็น Thermage ที่พัฒนาขึ้นมารุ่นแรก ๆ แต่ยังนิยม เพราะมีประสิทธิภาพยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนได้ดี เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์พื้นฐานแต่ราคาเข้าถึงง่าย
โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นคือ ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้นทดลอง Thermage และช่วยให้ผิวแน่นขึ้นแบบธรรมชาติ
2. Thermage CPT
รุ่น CPT ใช้เทคโนโลยี Comfort Pulse Technology ลดความเจ็บขณะทำ เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องความรู้สึกระหว่างทำ
โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นคือ ให้ความสบายมากขึ้นระหว่างทำ แต่ยังคงประสิทธิภาพยกกระชับผิวและสร้างคอลลาเจนได้ดี
3. Thermage FLX
รุ่นนี้เป็นเทคโนโลยีล่าสุด ช่วยยกกระชับหน้าได้เร็วขึ้น และเจ็บน้อยลง เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนแต่ไม่อยากพักฟื้นนาน
โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นคือ ปรับหัวทิปใหม่ ทำให้การยิงคลื่นความร้อนกระจายสม่ำเสมอ ยกกระชับได้ทั่วทั้งใบหน้า และเห็นผลเร็วกว่าเดิม
ทำ Thermage ที่บริเวณไหนได้บ้าง
1. ทำ Thermage ที่หน้าผาก
การทำ Thermage บริเวณหน้าผากช่วยยกคิ้วและลดริ้วรอยขมวดคิ้วได้ เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยแนวขมวดคิ้วหรือหนังตาตก
ข้อดีของการทำตำแหน่งนี้คือ ช่วยให้ดวงตาดูกลมโต สดใสขึ้น และลดรอยย่นบนหน้าผาก เหมาะกับคนที่มีปัญหาหน้าผากย่น คิ้วตก หรือหนังตาหย่อน
2. ทำ Thermage ที่รอบดวงตา
บริเวณรอบดวงตา เช่น ใต้ตาและหางตา สามารถทำ Thermage เพื่อลดถุงใต้ตา ริ้วรอย และรอยตีนกา
ข้อดีของการทำตำแหน่งนี้คือ ทำให้ดวงตาดูสดใส ผิวรอบดวงตาเรียบเนียนขึ้น เหมาะกับคนที่มีถุงใต้ตา ริ้วรอยตีนกา หรือผิวหย่อนคล้อยรอบดวงตา
3. ทำ Thermage ที่แก้มและร่องแก้ม
Thermage บริเวณแก้มช่วยยกกระชับผิว ลดร่องแก้ม ทำให้หน้าดูเรียวและอ่อนเยาว์ขึ้น
ข้อดีของการทำตำแหน่งนี้คือ ช่วยปรับรูปหน้าให้กระชับ ลดความหย่อนคล้อย เหมาะกับคนที่มีแก้มหย่อน ร่องแก้มลึก หรืออยากปรับรูปหน้าให้ชัดเจน
4. ทำ Thermage ที่กราม และ Jawline
สามารถทำ Thermage เพื่อลดเหนียงและยกกรอบหน้าชัดขึ้น
ข้อดีของการทำตำแหน่งนี้คือ ช่วยลดเหนียง ทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น เหมาะกับคนที่มีเหนียง หรือกรอบหน้าไม่ชัด
บริเวณไหนบ้างที่ควรเลี่ยงการทำเทอร์มาจ
- รอบดวงตาที่บางเกินไป
ผิวรอบดวงตามีความบอบบาง หากทำใกล้ลูกตามากเกินไปอาจเสี่ยงเกิดการไหม้หรือระคายเคืองได้ - บริเวณที่มีฟิลเลอร์หรือซิลิโคน
คลื่นความร้อนจากเทอร์มาจอาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพหรือวัสดุซิลิโคนเกิดการเปลี่ยนรูป - บริเวณที่มีโลหะฝังอยู่ใต้ผิว
เช่น ผู้ที่เคยผ่าตัดใส่แผ่นโลหะหรือสกรู เพราะความร้อนสามารถทำให้โลหะสะสมความร้อนและเป็นอันตรายได้ - บริเวณที่มีแผลหรือการอักเสบ
หากมีแผลเปิด สิวอักเสบ หรือผื่นติดเชื้อ ควรเลี่ยงเพราะเสี่ยงทำให้แผลแย่ลงหรือติดเชื้อเพิ่มขึ้น
Thermage กับ Ulthera, Ulthera SPT, HIFU, Oligio, Volnewmer และ Ultraformer ต่างกันยังไง?
1. Ulthera vs Thermage
- Thermageใช้พลังงานอัลตราซาวนด์แบบโฟกัส (Focused Ultrasound) ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการดึงหน้า ผลลัพธ์ช่วยยกกระชับโครงหน้า ลดแก้มและเหนียง อยู่ได้นาน 1–2 ปี
- จุดเด่น: ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงการดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
2. Ulthera vs Ulthera SPT
- Ulthera SPT เป็นรุ่นใหม่ของ Ulthera ที่เพิ่มเทคโนโลยี See–Plan–Treat สามารถมองเห็นชั้นผิว วางแผน และยิงได้แม่นยำขึ้น ผลลัพธ์สม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงการยิงผิดตำแหน่ง
- จุดเด่น: ความแม่นยำสูง ยิงตรงชั้นที่ต้องการ เห็นผลชัดและคงที่มากกว่า
3. Ulthera vs HIFU
- HIFUใช้หลักการเดียวกับ Ulthera แต่เทคโนโลยีทั่วไป ความเสถียรและความลึกน้อยกว่า ผลช่วยยกกระชับเล็กน้อย กรอบหน้าดูชัดขึ้น
- จุดเด่น: ราคาเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นอยากลองยกกระชับ
4. Ulthera vs Oligio
- Oligio เป็นเครื่อง RF แบบ Monopolar เช่นเดียวกับ Thermage แต่พัฒนาให้ราคาย่อมเยากว่า ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึงและลดริ้วรอย
- จุดเด่น: เจ็บน้อยกว่า Thermage ราคาจับต้องได้ แต่ยังคงเห็นผลเรื่องผิวตึง
5. Ulthera vs Volnewmer
- Volnewmerเป็นเทคโนโลยี RF รุ่นใหม่ที่เน้นการยกกระชับและลดริ้วรอย ให้พลังงานความร้อนสม่ำเสมอมากขึ้น ทำให้รู้สึกสบายกว่าเวลาทำ
- จุดเด่น: เจ็บน้อยกว่า Thermage ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและผิวเรียบเนียนขึ้น
6. Ulthera vs Ultraformer
- Ultraformerเป็น HIFU รุ่นพัฒนา สามารถลงพลังงานได้หลายชั้นผิว มีหัวหลากหลายปรับได้ตามปัญหา เช่น ผิวตื้น ร่องแก้ม หรือชั้นลึก
- จุดเด่น: ครอบคลุมปัญหาผิวได้หลายระดับ ราคาเข้าถึงง่ายกว่า Ulthera แต่ยังคงเห็นผลเรื่องยกกระชับกรอบหน้า
อยากรู้ว่า Thermage ของแท้หรือปลออม ต้องดูยังไง?
1. Serial Number และสติกเกอร์รับรอง: หัวทิป (Tip) ของ Thermage แท้จะมี Serial Number เฉพาะ และสติกเกอร์รับรองจากบริษัทผู้ผลิต (Solta Medical, USA) สามารถตรวจสอบกับบริษัทตัวแทนในไทยได้
2. กล่องบรรจุหัวทิป: หัวทิปของแท้จะมาในกล่องปิดผนึกแน่นหนา มีฉลากบอกชัดเจน เช่น จำนวนช็อต วันหมดอายุ และโลโก้ Solta Medical
3. จำนวนช็อต (Shot Count): Thermage แท้จะโชว์จำนวนช็อตที่เหลือบนหน้าจอเครื่องแบบเรียลไทม์ เพื่อป้องกันการใช้หัวทิปซ้ำหรือดัดแปลง
4. เครื่อง Thermage แท้: ตัวเครื่องต้องเป็นของบริษัท Solta Medical เท่านั้น หน้าจอและซอฟต์แวร์มีโลโก้ Thermage ชัดเจน
5. ใบรับรองคลินิก: คลินิกที่เป็นผู้ให้บริการของแท้ จะได้รับการรับรองจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ สามารถขอดู Certificate ได้
ข้อดีของการทำเทอร์มาจ ช่วยอะไรบ้าง
- ช่วยยกกระชับผิวหน้าและลำคอ ลดความหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแข็งแรงและเต่งตึงขึ้น
- ช่วยลดริ้วรอย ร่องลึก และเส้นเล็ก ๆ รอบดวงตา
- ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระชับ รูขุมขนดูเล็กลง
- ทำครั้งเดียว เห็นผลยาวนาน 1–2 ปี
- ช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ข้อเสียของการทำThermage มีอะไรบ้าง
- อาจมีอาการบวม แดง หรือเจ็บเล็กน้อยหลังทำ แต่จะหายเองภายในไม่กี่วัน
- หากใช้เครื่องที่ไม่ใช่ของแท้ หรือทำโดยผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจเสี่ยงต่อการผิวไหม้หรือไม่เห็นผล
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากเกินไป ซึ่งอาจต้องใช้วิธีการศัลยกรรมแทน
Thermage เหมาะกับใครบ้าง?
- เหมาะกับผู้ที่มีผิวเริ่มหย่อนคล้อย แต่ยังไม่มาก (ช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป)
- เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอย ร่องแก้ม หรือเส้นเล็ก ๆ รอบดวงตา
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการลด Volume บริเวณใบหน้า ให้เรียวเล็กลง เช่น แก้มอูม ๆ หรือเวลายิ้มแล้วหน้าดูบาน
- เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้ม ใต้คาง หรือเหนียง และต้องการยกกระชับ ปรับกรอบหน้าให้ชัด โดยไม่ต้องผ่าตัด
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในหลายบริเวณ เช่น ใบหน้า คอ หน้าท้อง ต้นแขน หลังมือ
- เหมาะกับผู้ที่มีเซลลูไลท์ต้นขาและก้น และอยากให้ผิวบริเวณนั้นเรียบแน่นขึ้น
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้ผิวแน่นและเรียบเนียน
ใครบ้างไม่เหมาะกับการทำเทอร์มาจ
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากจนเกินไป ซึ่งอาจต้องแก้ด้วยการศัลยกรรมยกหน้าแทน
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคผิวหนังในบริเวณที่จะทำ เช่น ผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อ หรือมีบาดแผล
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ใส่อุปกรณ์โลหะหรือเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าในร่างกาย เช่น Pacemaker
- ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
ทำ Thermage เจ็บไหม?
Thermage จะรู้สึกอุ่น ๆ ร้อนลึก ๆ ใต้ผิว แปลบเป็นช่วง ๆ แต่โดยรวมทนได้ ไม่ถึงกับเจ็บมาก โดยเฉพาะรุ่นใหม่อย่าง Thermage FLX ที่มีระบบสั่นและความเย็นช่วยลดความเจ็บ
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำ Thermage
- ทำความสะอาดหน้าให้สะอาด ไม่ทาเครื่องสำอางหรือครีมก่อนทำ
- หากเคยทำหัตถการอื่นบนหน้า เช่น ร้อยไหม หรือฉีดฟิลเลอร์ ควรเว้นระยะอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนทำ Thermage
ขั้นตอนการทำ เทอร์มาจ (ยกตัวอย่าง จากกังนัมคลินิก)
- แพทย์ตรวจสภาพผิว จุดที่ต้องการยกกระชับ และวางแผนพลังงานที่เหมาะสม
- ทำความสะอาดหน้า ล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกให้หมด และสามารถทายาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ
- กำหนดจุดยิงและเริ่มทำ Thermage
- ใช้หัวทิปของเครื่องปล่อย คลื่นวิทยุลงลึกในผิว โดยเครื่องจะปล่อยความร้อนสลับความเย็น ลดความรู้สึกแสบร้อน
- แพทย์จะเคลื่อนหัวทิปไปตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้าอย่างเป็นระบบ เพื่อตรวจสอบความรู้สึกและปรับพลังงาน และแพทย์จะถามความรู้สึ
- ระหว่างทำ เพื่อปรับพลังงานให้เหมาะสม
- หลังทำสามารถทาครีมบำรุงได้ตามปกติ และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
ทำ Thermage มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
หลังทำ Thermage ผิวอาจแดงหรือชมพูเล็กน้อย บวมเล็กน้อย รู้สึกแสบร้อนใต้ผิว หรือมีความจี๊ดเป็นช่วง ๆ อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
แนะนำแนวทางการปฏิบัติตัวหลังทำ Thermage
- หลีกเลี่ยงการโดน แดดจัดประมาณ 1 สัปดาห์
- ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตามปกติ แต่หลีกเลี่ยงการขัดหรือสครับแรง ๆ
- หากมีผิวแดง บวม หรือร้อนใต้ผิว สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้
ข้อควรระวังหลังทำ Thermage มีอะไรบ้าง
- หลีกเลี่ยงความร้อนสูง เช่น ซาวน่า หรืออบไอน้ำ ประมาณ 1 สัปดาห์
- อย่าแกะหรือขัดผิวแรง ๆ บริเวณที่ทำการรักษา
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น แผลพุพองหรือแดงนานเกิน 24 ชั่วโมง ควรปรึกษาแพทย์ทันที
Thermage อันตรายไหม?
หลายคนกังวลว่า Thermage จะอันตรายไหม จริง ๆ แล้วถ้าทำโดย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้เครื่องแท้ การทำ Thermage ถือว่ามีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงส่วนใหญ่ก็เป็นแค่ชั่วคราว เช่น หน้าแดง ชมพู บวมหรือรู้สึกร้อนใต้ผิว ซึ่งสามารถหายได้เอง
รีวิว ทำ Thermage
ทำ Thermage ที่ไหนดี? 4 ข้อเช็กลิสต์ก่อนตัดสินใจ
1. แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เลือกคลินิกที่มีทีมแพทย์ด้านความงามที่มีประสบการณ์ ทำให้มั่นใจว่าการทำ Thermage ปลอดภัยและได้ผลจริง
2. เครื่องแท้และเทคโนโลยีทันสมัย
ควรเลือกคลินิกที่ใช้เครื่อง Thermage แท้และอัปเดตใหม่ เพื่อลดความเจ็บและให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและชัดเจน
3. รีวิวและเคสจริง
ดูรีวิวหรือภาพก่อน–หลังของคนไข้จริง เพื่อประเมินความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่แท้จริง
4. บริการหลังทำ
เลือกคลินิกที่ให้คำปรึกษาชัดเจน มีการติดตามผลหลังทำ เพื่อให้คนไข้มั่นใจและสบายใจทุกขั้นตอน
ทำไมควรเลือกทำ Thermage ที่กังนัมคลินิก
หากคุณกำลังมองหาคลินิกในการทำ Thermage ที่ปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน กังนัมคลินิกคือคำตอบครบทุกความต้องการ ดังนี้
ข้อเปรียบเทียบ | ทำ Thermage ที่กังนัมคลินิก | คลินิกอื่น ๆ |
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ | มีแพทย์ผิวหนังและแพทย์ความงามที่เชี่ยวชาญ ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ | อาจมีคนทำโดยพนักงานหรือแพทย์ไม่เฉพาะทาง |
เครื่องแท้และอัปเดต | ใช้เครื่องแท้ อัปเดตใหม่ ปรับพลังงานเหมาะกับผิวแต่ละคน ลดความเจ็บและได้ผลชัดเจน | บางคลินิกใช้เครื่องเก่าหรือเครื่องเลียนแบบ ทำให้ผลลัพธ์ไม่เท่ากัน |
มาตรฐานความสะอาด | คลินิกได้มาตรฐาน ปลอดเชื้อ จัดการอุปกรณ์อย่างเข้มงวด | บางที่อาจมาตรฐานไม่เท่ากัน เสี่ยงติดเชื้อหรือระคายเคือง |
การติดตามหลังทำ | มีการติดตามผลหลังทำ ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองชัดเจน | บางคลินิกไม่มีบริการติดตาม ทำให้คนไข้ต้องดูแลเองทั้งหมด |
รีวิวและความน่าเชื่อถือ | มีรีวิวคนไข้จริงและผลลัพธ์ก่อน–หลังมากมาย เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน | รีวิวอาจน้อย หรือไม่สามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือได้ |
ทำ Thermage ราคาเท่าไหร่ ?
โดยทั่วไป ราคาเริ่มต้นของการทำ Thermage จะอยู่ที่ประมาณ 50,000–80,000 บาท ขึ้นอยู่กับบริเวณและจำนวนช็อต ส่วนที่ กังนัมคลินิก ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ เริ่มต้นเพียง 23,232 บาท /300 Shot
รวมคำถามอื่น ๆ ที่หมอพบบ่อยเกี่ยวกับการทำThermage
Thermage กับ Ulthera ทำพร้อมกันได้ไหมคะ?
ทำพร้อมกันได้ แต่ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำเว้นระยะห่าง เพื่อให้ผิวฟื้นตัวเต็มที่และลดการระคายเคือง
Thermage กับ Ulthera อย่างไหนดีกว่ากัน?
สองเครื่องนี้เหมาะกับปัญหาต่างกัน Thermage โดดเด่นเรื่องยกกระชับและลดไขมันใบหน้าเบา ๆ ส่วน Ulthera โดดเด่นในการยกกระชับลึกและสร้างคอลลาเจน
ควรทำ Thermage กี่ครั้งถึงจะดี?
โดยทั่วไป ทำเพียง 1 ครั้งก็เห็นผลแล้ว แต่ผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นตามเวลาและสามารถทำซ้ำทุก 12–18 เดือน เพื่อคงความกระชับ
Thermage ควรใช้พลังงานเท่าไหร่ ?
การปรับ พลังงาน ของ Thermage ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคน ผิวบางหรือแพ้ง่ายอาจต้องใช้พลังงานต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง ส่วนผิวหนาหรือหย่อนคล้อยมาก อาจใช้พลังงานสูงขึ้นเพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจน
ดูดไขมันแล้วทำ Thermage ได้ไหม?
หลังดูดไขมันสามารถทำ Thermage ได้ แต่ควร เว้นระยะอย่างน้อย 1–2 เดือน เพื่อให้ผิวฟื้นตัวและลดความเสี่ยงบวมหรืออักเสบ การทำ Thermage จะช่วยกระชับผิวหลังดูดไขมัน ทำให้ใบหน้าเรียวขึ้นและผิวเนียนขึ้น
ทำ Thermage กี่วันเห็นผล ?
บางคนอาจ เห็นผลทันทีหลังทำ เช่น รู้สึกผิวตึงขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะเกิดขึ้นใน 2–3 เดือน เนื่องจาก Thermage ทำงานโดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ของผิว
ไขมันน้อย หน้าตอบ ทำ Thermage ได้ไหม ?
สามารถทำได้ แต่ถ้าผิวมีไขมันน้อยหรือหน้าตอบ ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่ากับคนที่มีไขมันบริเวณแก้มหรือเหนียง Thermage จะช่วย กระชับและยกผิวให้ตึงขึ้น แต่ไม่ได้เติม volume ให้หน้าเต็ม
ทำ Thermage VS ดูดไขมัน ต่างกันอย่างไร ?
Thermage ใช้คลื่นวิทยุ ยกกระชับผิว ลดหย่อนคล้อย และกระตุ้นคอลลาเจน ไม่ได้กำจัดไขมันจำนวนมาก
ดูดไขมัน กำจัดไขมันออกจากบริเวณเฉพาะ ทำให้หน้าเรียวลงทันที แต่ต้องมีการฟื้นตัว และอาจเกิดผิวหย่อนคล้อยถ้าไม่กระชับหลังทำ
อยากยกกระชับหน้า ร้อยไหม โบท็อก เลือกแบบไหนดีที่สุด ?
ร้อยไหมเหมาะกับการยกผิวเฉพาะจุด ลดหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง โบท็อกช่วย ลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า โดยเฉพาะกราม ส่วน Thermage ช่วย กระชับผิวทั่วหน้าและปรับหน้าเรียว การเลือกวิธีที่เหมาะสมควรขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและผลลัพธ์ที่ต้องการ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนเลือกวิธีให้ได้ผลที่ดีที่สุด
เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรทำ Thermage กับคลินิกที่ ได้มาตรฐานและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล อย่าง กังนัมคลินิก หากสนใจเข้ารับบริการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ทุกสาขา หรือแอด Line ID: @gangnamclinic ได้เลยค่ะ
แหล่งข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับ Thermage
Thermage.
https://www.thermage.com/
pubmed. Radiofrequency: Thermage.
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/21763995/
