ฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยตกเทรนด์ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหา ริมฝีปากบาง ปากแห้ง ริ้วรอยชัด หรือทาลิปแล้วตกร่อง เพราะฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างเห็นผล ช่วยให้ปากดูอวบอิ่ม ได้รูปทรงอย่างที่ต้องการ
บทความนี้หมอจะพาไปทำความรู้จักว่า การฉีดฟิลเลอร์ปากคืออะไร? ข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ผลลัพธ์ที่สวยละมุน และปลอดภัย
รู้จัก! ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร
ฟิลเลอร์ปาก คือการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) เข้าไปบริเวณริมฝีปาก เพื่อเพิ่มความอวบอิ่ม เติมเต็มร่องลึก ปรับรูปทรงริมฝีปากให้ได้รูปสวยตามที่ต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปปากโดยไม่ต้องการผ่าตัด เห็นผลไว และสามารถออกแบบรูปปากได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเพิ่มวอลลุ่ม ยกมุมปาก หรือปรับทรงกระจับให้ดูเซ็กซี่อย่างเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ปากช่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไรบ้าง
- ริมฝีปากบาง ขาดวอลลุ่ม
- ปากแห้ง ลอก ดูไม่ชุ่มชื้น
- ริ้วรอยรอบริมฝีปากและขอบปาก
- ขอบปากไม่ชัด มุมปากตก
- ทาลิปแล้วตกร่อง ไม่ติดทน
การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ใช่แค่ช่วยเพิ่มความอวบอิ่ม แต่ยังช่วยให้ริมฝีปากดูชุ่มชื้น มีมิติ แก้ปัญหาริมฝีปากแห้ง ริ้วรอย ทำห้ริมฝีปากดูน่ามองขึ้นอีกด้วย
ฟิลเลอร์ปากทรงไหนดี ปี 2025
การเลือกทรงปากให้เหมาะสมกับตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะทรงปากที่เข้ากับใบหน้าจะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูละมุนและเป็นธรรมชาติ ในปี 2025 นี้ หมอจะพามาอัปเดตกันว่า ทรงปากไหนที่กำลังได้รับความนิยม และทรงไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด
- ฟิลเลอร์ปาก ทรงเกาหลี
การฉีดฟิลเลอร์ปากทรงเกาหลีจะเน้นให้ปากดูอวบอิ่มและเรียบเนียน โดยเฉพาะริมฝีปากล่างที่ให้ความอิ่มฟูเป็นทรงคล้ายลูกเชอรี่ ปากทรงนี้มักมีการยกมุมปากให้ดูยิ้มละมุน และขอบปากมีความคมชัด ฟิลเลอร์ปากทรงเกาหลีเหมาะกับคนที่ต้องการปากที่ดูเป็นธรรมชาติและมีเสน่ห์แบบสาวเกาหลี
- ฟิลเลอร์ปาก ทรงสายฝอ
การฉีดฟิลเลอร์ปากทรงสายฝอจะเน้นความหนาและความอวบอิ่มของริมฝีปาก โดยเพิ่มความเด่นชัดให้กับขอบปากทั้งบนและล่าง ทำให้ปากดูเซ็กซี่และมีมิติขึ้น ทรงนี้เหมาะกับคนที่ต้องการริมฝีปากที่ดูเต็มและชัดเจนขึ้นโดยไม่ต้องเติมเนื้อเยอะเกินไป
- ฟิลเลอร์ปาก ทรงมาสด้า
ฟิลเลอร์ปากทรงมาสด้าเป็นทรงที่ได้รับความนิยมในช่วงที่ผ่านมา ปากทรงนี้จะคล้ายกับทรงกระจับแต่ดูมีมิติและความใหญ่ขึ้น โดยขอบปากบนจะมีลักษณะคล้ายรูปตัว M ซึ่งยกสูงขึ้น คล้ายกับโลโก้ของรถมาสด้า ฟิลเลอร์ปากทรงนี้เหมาะกับคนที่ชอบลุคที่ดูเด่นและมีเสน่ห์เฉพาะตัว
- ฟิลเลอร์ปาก ทรงปากกระจับ
การฉีดฟิลเลอร์ปากทรงกระจับจะยกมุมปากทั้งสองข้างให้สูงขึ้น และเพิ่มความมีมิติให้กับใบหน้า โดยทรงนี้จะทำให้ปากดูสวยละมุน เหมาะสำหรับคนที่มีมุมปากตกหรือริมฝีปากบางที่ไม่เป็นทรง ปากกระจับช่วยให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์และดูเด็กขึ้น
รูปทรงฟิลเลอร์ปากแบบไหนที่เหมาะกับคนไทย
ฟิลเลอร์ปากทรงที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ ทรงสายฝอ ซึ่งเป็นปากที่ดูหนา เน้นริมฝีปากอวบอิ่ม แต่สำหรับคนไทยที่มีโครงหน้าค่อนข้างแตกต่างกับคนตะวันตก อาจทำให้ปากที่ดูหนาเกินไปไม่เหมาะกับใบหน้าและไม่เป็นธรรมชาติ เคสนี้ควรใช้ตัวอย่างริมฝีปากที่เป็นคนเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น หรือเกาหลี ซึ่งมีโครงหน้าใกล้เคียงกับคนไทย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
วิธีดูสัดส่วนและรูปปากให้เหมาะกับใบหน้า ควรให้ริมฝีปากล่างมีขนาดใหญ่กว่าริมฝีปากบนเล็กน้อย โดยสัดส่วนที่เหมาะสมคือ 1:1.618 เมื่อมองจากด้านข้าง เส้นที่ลากจากปลายจมูกไปถึงคาง ริมฝีปากล่างจะควรที่จะต้องสัมผัสตัวเส้นนี้พอดี และริมฝีปากบนควรมีระยะห่างจากเส้นนี้ประมาณ 2 มิลลิเมตร เพื่อให้ปากดูสมดุลและมีความเป็นธรรมชาติ
แชร์! วิธีการดูโหงวเฮ้งปากที่ดีและไม่ดี ?
ลักษณะปากที่ดี
ริมฝีปากกว้าง: ผู้ที่มีริมฝีปากกว้างมักจะมีความสามารถในการทำงานใหญ่ได้ดี ชายจะมีวาสนาดีและมีคู่ช่วยเหลือในชีวิต ส่วนหญิงจะเก่งในการหาเลี้ยงตนเองและมีความขยัน กระตือรือร้นสูง แต่บางครั้งอาจหัวแข็งและไม่ยอมใคร
ริมฝีปากบนหนา: คนที่มีริมฝีปากบนหนามักจะเป็นผู้ให้ มีความซื่อสัตย์และพูดตรง แต่หากเป็นผู้หญิงอาจจะมีอาภัพคู่
ลักษณะปากที่ไม่ดี
สำหรับชายที่มีริมฝีปากบางเฉียบ มักจะมีเล่ห์เหลี่ยมและเจรจาคล่องแคล่ว แต่บางครั้งอาจขาดความอดทนและไม่แยแสเรื่องความรัก หญิงที่มีริมฝีปากบางจะพูดเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์และมักจะชอบนินทา โกหก และมองโลกในแง่ร้าย
ข้อดี-ข้อเสีย ฟิลเลอร์ปาก มีอะไรบ้าง
ข้อดี ฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มริมฝีปาก ทำให้ปากดูอวบอิ่มทันทีหลังการฉีด
- การฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องใช้การผ่าตัด จึงไม่ต้องพักฟื้นนาน
- ฟิลเลอร์ช่วยให้สามารถปรับรูปทรงริมฝีปากได้หลากหลาย เช่น ทรงเกาหลีหรือทรงสายฝอ
- ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- หากต้องการแก้รูปทรงปาก สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้
ข้อเสีย ฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร เพราะฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปภายใน 6-12 เดือนตามชนิดของฟิลเลอร์
- หลังการฉีดอาจมีอาการบวมและฟกช้ำบริเวณริมฝีปาก ซึ่งสามารถหายได้เองภายใน 3-7 วัน
- หากฉีดไม่ถูกวิธี หรือดูแลไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือผลข้างเคียง เช่น การแพ้ฟิลเลอร์ได้
- แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ปากจะเป็นหัตถการที่ผลลัพธ์ทันที โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด แต่ก่อนจะตัดสินใจฉีด อย่าลืมพิจารณาข้อดี-ข้อเสียต่าง ๆ ให้ดีก่อน
ฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่มีริมฝีปากบางจากอายุที่เพิ่มขึ้น
- ผู้ที่มีริ้วรอยที่ริมฝีปากหรือขอบปาก
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงปากให้เข้ากับใบหน้า
- ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากแห้งหรือปากลอก
- ผู้ที่มีปัญหามุมปากตก ปากคว่ำ
- ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากไม่เรียบเนียน หรือทาลิปสติกตกร่อง
ใครไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ผู้ที่แพ้สารเติมเต็มหรือมีประวัติการแพ้
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับเลือดหรือมีภาวะเลือดออกง่าย
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ต้องใช้กี่ cc ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ โดยทั่วไปหมอแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ 1 cc ก็เพียงพอแล้ว แต่บางกรณีอาจต้องใช้ถึง 2 cc ขึ้นอยู่กับทรงปากและผลลัพธ์ที่ต้องการ เช่น ความหนาของปากเดิมหรือต้องการยกมุมปากให้ชัดขึ้น ทั้งนี้ หมอจะช่วยทำการประเมินและแนะนำปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้เหมาะกับใบหน้าของแต่ละบุคคลครับ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถนอนตะแคงได้ไหม?
ควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือกดทับที่ปากในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่และกดทับบริเวณที่ฉีด
ฟิลเลอร์ใช้ฉีดบริเวณปาก มีกี่ยี่ห้อ? แต่ละยี่ห้อมีรุ่นอะไรบ้าง ?
ฟิลเลอร์ปากมีหลากหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในวงการเสริมความงาม โดยแต่ละยี่ห้อจะมีการพัฒนารุ่นต่าง ๆ ให้เหมาะสำหรับการฉีดเติมเต็มริมฝีปาก ยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่นิยมใช้มีดังนี้
ยี่ห้อ Juvederm
เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมสูงมากในวงการความงาม โดยมีหลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น
- Juvederm Volbella ฟิลเลอร์เนื้อเนียนละเอียด ปั้นทรงได้ง่าย อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
- Juvederm Ultra Plus เนื้อนิ่มและฟู เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการริมฝีปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อแข็งและแน่น อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
- Juvederm Volite เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการริมฝีปากชุ่มชื่นและดูเซ็กซี่ อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
ยี่ห้อ Restylane
เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้เทคโนโลยี NASHA (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid) ซึ่งช่วยให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและดูเป็นธรรมชาติ
- Restylane Refyne เนื้อเจลยืดหยุ่นดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
Restylane Volyme เนื้อนิ่มปานกลาง อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
Restylane Vital Light เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากแห้งและต้องการความชุ่มชื่น อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
Restylane Kysse เหมาะสำหรับการเสริมขอบปากให้ชัดเจนและเติมเต็มริมฝีปาก อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
ยี่ห้อ Belotero
เป็นฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ที่เนียนละเอียดและมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะสำหรับการเติมเต็มริมฝีปาก
- Belotero Balance (สีส้ม) ฟิลเลอร์เนื้อแน่นปานกลาง อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
- Belotero Soft (สีเหลือง) ฟิลเลอร์เนื้อเหลวเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
- Belotero Lips Shape (แดงเข้ม) ฟิลเลอร์รุ่นนี้เน้นเพิ่มวอลลุ่มและความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
- Belotero Lips Contour (แดงสด) ฟิลเลอร์รุ่นนี้ช่วยปรับขอบริมฝีปากให้คมชัดขึ้น อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
ยี่ห้อ Neuramis
เป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูงและช่วยปั้นทรงได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับการเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม
- Neuramis Deep (สีดำ) เนื้อฟิลเลอร์คงตัวสูง เหมาะกับการปั้นทรงปากให้ดูเต็มและอวบอิ่ม อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน? กี่วันถึงจะเข้าที่ ?
หลังฉีดอาจมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วง 1-3 วันแรก โดยอาการบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้นและ ผลลัพธ์จะเข้าที่ประมาณ 7-14 วัน
ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันถึงจะทาลิปได้ ?
แนะนำให้หลีกเลี่ยงการทาลิปประมาณ 24 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพราะอาจมีรอยเข็มหรือผิวยังบวมอยู่
ฉีดฟิลเลอร์ปากอันตรายหรือไม่ ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่อันตราย หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน อย.
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บหรือไม่ ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก จะมีความรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อย โดยแพทย์จะทายาชาหรือฉีดยาชาก่อนทำเพื่อลดความเจ็บ และฟิลเลอร์บางยี่ห้อก็มีส่วนผสมของยาชาในตัวอยู่แล้ว
ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน? กี่เดือน ?
เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปากมีหลายแบบขึ้นอยู่กับเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวของแพทย์ เช่น Russian Lips ที่เน้นยกทรงปากให้ดูเป็นกระจับและโดดเด่น, Cherry Lips ที่เน้นความอวบอิ่มน่ารักแบบธรรมชาติ, Cupid’s Bow ที่เติมให้หยักปากบนคมชัด และเทคนิคยกมุมปาก ช่วยให้ดูยิ้มละมุน
การเลือกเทคนิคฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละแบบ หมอจะพิจารณาจากโครงหน้า และรูปปากเดิมของคนไข้ เพื่อให้เข้ากับใบหน้ามากที่สุด
เปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ปาก กับ ผ่าตัดปาก ต่างกันอย่างไร
การฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปปากแบบไม่ถาวร เห็นผลไว เจ็บน้อย และสามารถเติมหรือแก้ไขได้ง่าย ส่วนการผ่าตัดปากให้ผลลัพธ์ถาวร เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปปากชัดเจนในระยะยาว แต่มีความเสี่ยงมากกว่า และหากผิดพลาดจะแก้ไขยาก
ฟิลเลอร์ปากสามารถฉีดสลายได้หรือไม่?
หากเป็นฟิลเลอร์แท้ (Hyaluronic Acid (HA)) เมื่อฉีดแล้วเกิดปัญหา เช่น ปากไม่เท่ากัน ปากเป็นก้อน หรือไม่ชอบผลลัพธ์ที่ได้ ก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์โดยใช้เอนไซม์ Hyaluronidase ได้อย่างปลอดภัยครับ
การเตรียมตัวก่อนฉีด
- หยุดทานยาเช่น แอสไพรินหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด
- นอนหลับให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวและลดการบวมหลังการฉีด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพื่อลดผลข้างเคียงและอาการบวม
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ และประวัติการแพ้ยา
ขั้นตอนการฉีด
- แพทย์จะประเมินรูปปากและสอบถามผลลัพธ์ที่ต้องการ
- ทำความสะอาดบริเวณริมฝีปากเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- อาจมีการทายาชาหรือฉีดยาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ
- แพทย์จะใช้เข็มฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณที่ต้องการปรับรูปปาก
- แพทย์จะดูผลลัพธ์หลังการฉีดและปรับแต่งตามความเหมาะสม
วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด
หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยผลลัพธ์ที่ได้คงทนยาวนานและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยมีข้อห้ามที่ต้องปฏิบัติตาม ดังนี้
- ห้ามสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์กระจายผิดที่
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มร้อน เพราะอาจทำให้ปากบวมและอักเสบได้ง่าย
- งดออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกหรือใช้ความรุนแรงในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ ทำให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้นและอยู่ได้นานขึ้น
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก บางคนอาจรู้สึกว่าปากแห้งหรือระคายเคือง เนื่องจากฟิลเลอร์ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นตึงขึ้น ซึ่งสามารถหายได้ภายในไม่กี่วันหากดูแลความชุ่มชื้นให้ปาก เช่น การทาลิปบาล์มหรือการดื่มน้ำให้เพียงพอ
การฉีดฟิลเลอร์อาจทำให้เกิดอาการช้ำหรือบวมที่ริมฝีปากได้ เนื่องจากการฉีดอาจทำให้เส้นเลือดเล็ก ๆ บริเวณริมฝีปากได้รับความเสียหาย โดยอาการช้ำมักจะหายไปภายใน 3-7 วัน
ทำไม! ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน เกิดจากสาเหตุอะไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนอาจเกิดจากอาการบวมปกติในช่วงแรก แต่หากก้อนแข็ง เจ็บ หรืออักเสบ อาจเกิดจากฟิลเลอร์ที่ไม่ได้คุณภาพหรือการฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ กรณีที่เป็นก้อนเล็ก ๆ สามารถแก้ไขได้โดยการนวดเบา ๆ บริเวณที่เกิดก้อนเพื่อให้ฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดีขึ้น หรือหากก้อนไม่หายไป แนะนำให้ปรึกษาแพทย์
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาเท่าไหร่?
ฟิลเลอร์ปาก ราคาจะแตกต่างกันไปตามคลินิก และยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ ที่ กังนัมคลินิก ฉีดฟิลเลอร์ปาก 1cc ราคาเริ่มต้นที่ 8,623 บาท
ข้อพิจารณาในการเลือกฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไหนดี
- ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้องและมีมาตรฐานในการให้บริการ
- เลือกแพทย์ที่มีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์และมีประสบการณ์ในการปรับรูปปาก
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้ฟิลเลอร์แท้และได้รับการรับรองจากอย.
- ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงเพื่อดูความพึงพอใจและผลลัพธ์
วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้-ปลอม มีอะไรวิธีไหนบ้าง
เลข Lot: ฟิลเลอร์แท้จะมีเลข Lot บนกล่องหรือหลอดที่สามารถตรวจสอบได้ผ่านระบบของบริษัทผู้ผลิตหรือบริษัทนำเข้า
ป้ายกำกับภาษาไทย: ฟิลเลอร์แท้จะมีป้ายกำกับที่เป็นภาษาไทย ซึ่งบ่งบอกถึงการรับรองและการนำเข้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย
สติกเกอร์รับรอง: ฟิลเลอร์แท้จะมีสติกเกอร์รับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อย.
ตรวจสอบกับบริษัทนำเข้า: หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อบริษัทนำเข้าเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับเลข Lot หรือผลิตภัณฑ์ได้ เพื่อยืนยันความถูกต้อง
คำถามที่พบบ่อย
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วปากไม่เท่ากัน ต้องแก้ไขอย่างไร
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วปากไม่เท่ากัน อาจเกิดจากปริมาณที่ฉีดไม่สมดุล ตำแหน่งคลาดเคลื่อน หรืออาการบวมในช่วงแรก หากอาการบวมหายไปแล้วยังไม่เท่ากัน หมอแนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อประเมินและแก้ไข โดยอาจเติมฟิลเลอร์เพิ่ม หรือฉีดสลายบางส่วน
ผ่าตัดทำปากบางมา แล้วบางเกินไป สามารถเติมฟิลเลอร์ปากแก้ได้หรือไม่ ?
สามารถเติมฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขปัญหาปากบางเกินไปหลังผ่าตัดได้ โดยแพทย์จะประเมินรูปทรงปากและเลือกใช้ฟิลเลอร์ในการเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น
หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมจะมีอาการอย่างไรบ้าง ?
อาการหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปลอม ได้แก่ ปวด บวม แดง มีหนอง มีตุ่มหรือก้อนแข็งใต้ผิวหนัง ผิวเปลี่ยนสี หรือมีอาการอักเสบรุนแรง
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นตุ่มใส ๆ ต้องแก้ไขอย่างไร
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นตุ่มใส ๆ อาจเกิดจากการระคายเคืองหลังฉีด หรือการอุดตันของต่อมน้ำลายเล็ก ๆ ที่เรียกว่า mucoceles ซึ่งไม่ใช่อันตรายร้ายแรง หากตุ่มไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยาลดการอักเสบหรือสลายฟิลเลอร์บางส่วน
ฉีดปากมากี่วันถึงจะจูบได้
โดยทั่วไปแนะนำให้งดจูบประมาณ 5-7 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวและลดโอกาสเกิดการเคลื่อนหรืออักเสบ
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถกินส้มตําได้ไหม
ไม่แนะนำให้กินส้มตำทันทีหลังฉีด เพราะรสจัดและเผ็ดอาจทำให้ปากระคายเคืองหรือบวมได้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดประมาณ 3-5 วัน
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ปากลอกเกิดจากอะไร?
ปากลอกหลังฉีดฟิลเลอร์อาจเกิดจากความแห้งผิวหรือร่างกายขาดน้ำ เนื่องจากฟิลเลอร์ต้องอาศัยน้ำในการอุ้มน้ำและฟื้นฟูผิว วิธีแก้คือดื่มน้ำให้เพียงพอ ทาลิปบาล์มหรือลิปมาสก์ และหลีกเลี่ยงการดึงหนังปากที่ลอกออก
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ปาก 1cc กับ 2cc ต่างกันไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ปาก 1cc กับ 2cc ต่างกันที่ปริมาณและผลลัพธ์ที่ได้ 1cc จะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับเล็กน้อย ส่วน 2cc จะช่วยเพิ่มวอลลุ่มมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน หรือปรับมุมปากชัด ๆ
ผู้ชายสามารถฉีดฟิลเลอร์ปากได้หรือไม่?
การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ได้จำกัดแค่ผู้หญิง ผู้ชายก็สามารถฉีดได้เช่นกัน ฟิลเลอร์ปากจะช่วยแก้ปัญหาปากแห้ง แตก ไม่มีมิติ หรือผู้ชายที่มีริมฝีปากบางได้ด้วยเช่นกัน
