gangnamclinic-jacksonwang

ฟิลเลอร์ใต้ตา

Under eye filler

ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นทางลัดในการคืนความสดใสให้กับใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา หรือริ้วรอยรอบดวงตา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็สามารถช่วยเติมเต็มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ใบหน้าไม่โทรม ดูสดใส และอ่อนเยาว์มากขึ้น

ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรทราบถึงข้อดีและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ บทความนี้หมอจะพาไปดูสิ่งจำเป็นที่คุณควรรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา

สารบัญเนื้อหา

ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร

ฟิลเลอร์ใต้ตา (Under Eye Filler) คือการเติมสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปในบริเวณใต้ตา เพื่อช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดความหมองคล้ำ แก้ปัญหาถุงใต้ตา และทำให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนมากขึ้น

ปัญหาใต้ตาแบบไหนควรฉีดฟิลเลอร์

ปัญหาใต้ตาเกิดจากร่องลึกหรือโครงสร้างที่ยุบตัวลงตามวัย รวมถึงพฤติกรรมอย่างการนอนน้อย นอนดึก ส่งผลให้เกิดเงาคล้ำและใบหน้าดูโทรมไม่สดใส ซึ่งปัญหาใต้ตาที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ เช่น ใต้ตาลึกมีร่องชัด ทำให้ดูโทรม เหมือนคนพักผ่อนไม่พอ หรือมีเงาคล้ำจากโครงสร้าง ไม่ใช่จากเม็ดสี ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้เรื่องอะไรบ้าง ?

  • ฟิลเลอร์ช่วยเติมร่องลึกใต้ตาหรือเบ้าตาลึก ให้ตื้นขึ้น
  • ฟิลเลอร์ช่วยให้เงาคล้ำใต้ตาที่เกิดจากโครงสร้าง ไม่ใช่จากเม็ดสี ดูสว่างขึ้น
  • ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มรอยย่น รอยเหี่ยว ความไม่สม่ำเสมอของผิวบริเวณใต้ตา ให้ดูเต็มและเรียบเนียน
  • ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียน สดใส และอ่อนเยาว์มากขึ้น
  • ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นตัวช่วยเติมเต็มใต้ตา แก้ปัญหาความหมองคล้ำหรือเบ้าตาลึก และช่วยให้ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กับ ดอลลี่อาย ต่างกันอย่างไรบ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเน้นแก้ปัญหาใต้ตาลึก คล้ำ หรือหย่อนคล้อย ให้หน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น ส่วนการฉีดดอลลี่อายเป็นการเติมฟิลเลอร์ให้ใต้ตาดูตุ่ยนิด ๆ คล้ายเวลายิ้ม เพื่อเพิ่มความน่ารัก ตาหวาน และหน้าดูแบ๊วแบบเกาหลี

ข้อดี-ข้อเสีย ฟิลเลอร์ใต้ตา มีอะไรบ้าง

ข้อดี ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • แก้ปัญหาใต้ตาลึก ริ้วรอยใต้ตา และรอยคล้ำได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • เพิ่มความมั่นใจ หน้าดูเด็กลงโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • หากไม่พอใจ สามารถฉีดสลายหรือปรับแก้ได้

ข้อเสีย ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • อาจเกิดอาการบวม ช้ำ หรือแดงบริเวณที่ฉีดในช่วงแรก
  • ผลลัพธ์อยู่ได้ชั่วคราว ต้องกลับมาฉีดซ้ำทุก 6-12 เดือน
  • หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจเกิดเป็นก้อน หรือฟิลเลอร์ไหล
  • มีโอกาสเกิดอาการแพ้หรืออุดตันเส้นเลือด หากใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใครบ้าง ?

ผู้ที่เหมาะกับฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาบริเวณใต้ตาที่ทำให้หน้าดูเหนื่อยหรือโทรม ได้แก่

  • เหมาะกับผู้มีปัญหาผิวใต้ตาหย่อนคล้อย หรือร่องใต้ตาลึก
  • เหมาะกับผู้มีปัญหาคล้ำใต้ตาที่เกิดจากโครงสร้างหน้า หรือการยุบตัวของกระดูก
  • เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยหรือรอยยับใต้ตา
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับใบหน้าให้ดูสดใสขึ้น อ่อนเยาว์ขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น
  • สำหรับใครที่มีปัญหาหรือร่องลึกใต้ตา อยากให้หน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ ฟิลเลอร์ใต้ตาก็ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดี และเห็นผลไว

ลักษณะและความหมายของโหงวเฮ้งใต้ตา ที่ดีและไม่ดี

ข้อบ่งบอกโหงวเฮ้งใต้ตา
  • โหงวเฮ้งใต้ตา ที่ดี
    โหงวเฮ้งใต้ตาที่ดี คือ ใต้ตาดูเรียบเนียน ไม่มีร่องลึกหรือถุงใต้ตา ทำให้ดูอ่อนเยาว์และมีความสดใส เป็นสัญญาณของคนที่มีสุขภาพดี
  • โหงวเฮ้งใต้ตา ที่ไม่ดี
    โหงวเฮ้งใต้ตาที่ไม่ดี คือ ใต้ตาลึก มีร่องน้ำตา หรือถุงใต้ตา เห็นชัดเจน บ่งบอกถึงการขาดการพักผ่อนหรือความเครียด และอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางอารมณ์หรือสุขภาพที่ไม่ดี นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ดูโทรมและแก่กว่าวัย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถทำให้ตาบอดได้จริงไหม ?

ข้อเท็จจริงฟิลเลอร์ใต้ตาเสี่ยงตาบอด

จริงครับ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงต่ออันตราย เช่น การอุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงตา ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะตาบอดได้

วิธีแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ, ริ้วรอย, ถุงใต้ตา

ปัญหาใต้ตาคล้ำ ริ้วรอย และถุงใต้ตา เป็นเรื่องที่หลายคนกังวล เพราะทำให้หน้าดูเหนื่อยล้าและดูแก่กว่าวัย โชคดีที่ปัจจุบันมีหลายวิธีที่ช่วยให้ใต้ตากลับมาสดใสและดูเด็กขึ้นได้ ได้แก่

  1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา : ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ลดถุงใต้ตา และปรับผิวให้เรียบเนียน ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้นทันที
  2. ทาครีมบำรุงรอบดวงตา : เลือกครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน C หรือเรตินอล ช่วยลดรอยคล้ำ กระชับผิว และลดเลือนริ้วรอยได้ในระยะยาว
  3. ประคบเย็น : การใช้ถุงชาเย็นหรือแผ่นมาส์กเย็นประคบใต้ตา ช่วยลดอาการบวมและทำให้หลอดเลือดหดตัว รอยคล้ำก็จะดูจางลง
  4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนน้อยเป็นสาเหตุหลักของใต้ตาคล้ำ ควรนอนให้ได้วันละ 6–8 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวได้ซ่อมแซมตัวเอง
  5. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ผิวเสื่อม : เช่น การขยี้ตาแรง ๆ ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือเล่นมือถือก่อนนอน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เร่งให้ผิวรอบดวงตาเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  6. ฉีด Filorga (ฟิลอก้า) : เป็นการทำเมโสหน้าใสแบบหนึ่ง โดยฉีดตัวยาบำรุงลึกเข้าไปใต้ผิว ช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้ดูชุ่มชื้น กระจ่างใส และลดปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ใต้ตาแห้ง

การรักษาใต้ตาดำหรือใต้ตาคล้ำ ควรเลือกให้เหมาะกับสาเหตุและสภาพผิวของแต่ละคน เพราะแต่ละคนอาจมีปัญหาต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นผิวบาง พักผ่อนน้อย หรือโครงสร้างชั้นผิวที่เปลี่ยนไป ดังนั้นการประเมินโดยแพทย์จะช่วยให้เลือกวิธีที่ตรงจุดและเห็นผลชัดเจนที่สุด

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายหรือไม่?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่อันตราย หากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน แต่หากทำผิดวิธีหรือเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น อักเสบ หรืออุดตันเส้นเลือด ดังนั้นควรศึกษาและเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้ครับ

Filler ใต้ตา มีทั้งหมดกี่ยี่ห้อ? ยี่ห้ออะไรบ้าง?

ยี่ห้อของฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตาที่นิยมในคลินิกปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ แต่ละแบรนด์ก็จะมีจุดเด่นเฉพาะที่เหมาะกับปัญหาผิวและลักษณะใต้ตาที่ต่างกัน มาดูกันเลยว่ามียี่ห้อไหนบ้าง

1. ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Restylane

Restylane ตัวท็อปสายธรรมชาติ เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดนที่ผ่าน อย. ไทย มีจุดเด่นที่เนื้อเจลละเอียด ปั้นง่าย ไม่เป็นก้อน เหมาะกับผิวบางบริเวณใต้ตา ช่วยเติมเต็มร่องลึกและลดรอยคล้ำได้อย่างเป็นธรรมชาติ

2. ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Juvederm

ด้วยเทคโนโลยี Vycross และ Hylacross ทำให้เนื้อเจลแน่น ยืดหยุ่นดี ฉีดแล้วไม่บวมตุ่ย เหมาะกับบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย ๆ อย่างใต้ตา เป็นฟิลเลอร์ที่ยืนหนึ่งเรื่องยกกระชับและคงตัว

3. ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Belotero

ฟิลเลอร์จากยุโรป เนื้อเจลเนียนและบางเบา ยึดเกาะผิวได้ดี ลดความเสี่ยงการเกิดก้อนหรือการไหลของฟิลเลอร์ รุ่นยอดนิยมสำหรับใต้ตาคือ “Belotero Soft”

3. ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Neuramis

ฟิลเลอร์จากเกาหลี ราคาย่อมเยาแต่คุณภาพเกินราคา รุ่นที่นิยมใช้ฉีดใต้ตาคือ Neuramis Deep (กล่องดำ) เนื้อเจลยืดหยุ่น ปั้นทรงง่าย จุดเด่นคือยืดหยุ่นดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เนียนเป็นธรรมชาติ

ถ้าถามว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี? การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา จริง ๆ แล้วไม่มีคำตอบที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับปัญหา ความลึกของร่องใต้ตา และผลลัพธ์ที่ต้องการ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด เพื่อให้ช่วยประเมินและเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน เพื่อผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติที่สุดครับ

Play Video about ฟิลเลอร์ใต้ตาตัวไหนดี

วิธีเช็ก ฟิลเลอร์ใต้ตาของแท้ มีวิธีไหนบ้าง

  • ตรวจสอบหมายเลขล็อต (Lot Number)
    เลขล็อตผลิตต้องตรงกันทั้งบนกล่อง ซองบรรจุภัณฑ์ และหลอดฟิลเลอร์ เพื่อยืนยันความถูกต้องและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
  • ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์
    ฟิลเลอร์แท้จะมีบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิท ไม่มีรอยแกะหรือเสียหาย โลโก้และฉลากต้องชัดเจน พร้อมระบุรายละเอียดสำคัญ เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์ เลขทะเบียน อย. วันผลิต และวันหมดอายุ
  • ตรวจสอบ QR Code
    ฟิลเลอร์บางยี่ห้ออาจมี QR Code ที่สามารถสแกนเพื่อตรวจสอบความแท้ของผลิตภัณฑ์ได้ โดยแสดงข้อมูลเช่น รุ่นฟิลเลอร์ รูปผลิตภัณฑ์ เลขทะเบียน และวันผลิต/หมดอายุ

ฉีดfiller ใต้ตา ต้องใช้กี่ CC ถึงจะเห็นผล ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหมอแนะนำว่าควรเริ่มจากปริมาณน้อย ๆ เช่น ข้างละ 0.5-1 CC ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน หากผิวยังไม่ทรุดตัวมาก การฉีดฟิลเลอร์เยอะเกินไปในครั้งเดียวอาจทำให้เกิดบวมเป็นก้อนและต้องแก้ไขภายหลัง ซึ่งจะเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บไหม

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่แพทย์จะใช้ยาชาช่วยลดอาการเจ็บ และฟิลเลอร์ส่วนมากจะมีส่วนผสมของยาชา คนไข้ส่วนใหญ่จะรู้สึกตึงหรือบวมเล็กน้อยหลังการฉีด และสามารถกลับไปทำกิจกรรมได้ทันที

แนะนำ!ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนฉีด

เตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  1. หยุดการใช้ยาที่อาจทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน หรือยาต้านการอักเสบก่อนการฉีด
  2. งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีดเพื่อป้องกันการบวมและเลือดออก
  3. ล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้ารับการฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  1. แพทย์จะทายาชาบริเวณใต้ตาก่อนการฉีดเพื่อลดความเจ็บ
  2. แพทย์จะใช้เข็มที่มีขนาดเล็กในการฉีดฟิลเลอร์ลงใต้ตาอย่างระมัดระวัง
  3. หลังการฉีดแพทย์จะทำการนวดเบา ๆ เพื่อกระจายฟิลเลอร์ให้ทั่ว
  4. แพทย์จะตรวจสอบผลลัพธ์หลังการฉีดและให้คำแนะนำในการดูแล

ข้อแนะนำการปฏิบัติหลังฉีด filler ใต้ตา

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  1. หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดทับบริเวณที่ฉีดเพื่อป้องกันการกระจายของฟิลเลอร์
  2. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักใน 24-48 ชั่วโมงหลังฉีด
  3. งดการอบซาวน่า หรือการสัมผัสกับความร้อนสูงในช่วง 1 สัปดาห์แรก
  4. หากมีการบวมหรือปวด สามารถทานยาแก้ปวดที่แพทย์แนะนำ

ใครควรเลี่ยงการฉีด filller ใต้ตา ?

  1. ผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายหรืออักเสบ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์จนกว่าจะหายดี
  2. หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  3. ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง หรือผู้ที่ทานยาบางประเภทที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงจากการฉีด
  4. ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติหรือเลือดแข็งตัวช้า เพราะการฉีดฟิลเลอร์อาจทำให้เกิดฟกช้ำหรืออาการบวมได้

สำหรับผู้ที่ไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เนื่องจากเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงที่อันตราย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

อาการข้างเคียงที่อาจจะเกิด

อาการข้างเคียงฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  1. อาการบวมและฟกช้ำ เป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่สามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน
  2. บริเวณที่ฉีดอาจมีอาการแดงหรือบวมเล็กน้อย
  3. ใต้ตาบวมเป็นก้อน อาจเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ไม่ตรงจุด
  4. อาการแพ้ฟิลเลอร์ บางคนอาจมีอาการแพ้ เช่น คัน ผื่น หรือบวมรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ทันที

ข้อห้ามทำ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  1. หลีกเลี่ยงการกดนวดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการบวมและฟกช้ำ
  2. หลีกเลี่ยงความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก ๆ เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  3. งดทำเลเซอร์ที่ใช้ความร้อน รวมถึงการทำเลเซอร์ทุกชนิดที่มีผลต่อผิวชั้นลึก อย่างน้อย 1 เดือน
  4. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ อาหารหมักดอง หรือหมูกระทะ ชาบู ที่มีความร้อนจากเตาร้อน ๆ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา นอนตะแคงได้ไหม

หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงในช่วง 1-2 วันแรก เพื่อลดการกดทับบริเวณที่ฉีด และป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง

ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานไหม? กี่เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติ

ฉีด filler ใต้ตา บวม กี่ วัน ? กี่วันถึงจะยุบ

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วง 1-2 วันแรก ซึ่งจะค่อย ๆ ยุบลงใน 3-5 วัน

สาเหตุ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว เป็นก้อน เกิดจากอะไร ?

ปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนหรือบวม เป็นหนึ่งในปัญหาที่คนไข้เข้ามาปรึกษาหมอบ่อยครั้ง โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยคือ การฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่ไม่ตรงกับปัญหาหรือใช้ฟิลเลอร์มากเกินไป การเลือกชนิดฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม หรือการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน วิธีแก้ไขคือควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการนวดหรือฉีดสลายฟิลเลอร์ออกจากบริเวณที่เป็นก้อน หรือการปรับวิธีการฉีดใหม่ให้ถูกต้อง

ข้อพิจารณาการเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ถึงจะปลอดภัยและได้มาตรฐาน

ข้อพิจารณาเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่แพร่หลายในวงการเสริมความงาม แต่การเลือกคลินิกที่เหมาะสมและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ จึงมีข้อที่ต้องพิจารณาดังนี้

  1. เลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
    ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตการเปิดอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข และได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรที่มีความเกี่ยวข้อง เพื่อความปลอดภัยและคุณภาพการรักษา
  2. เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์
    ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในด้านการฉีดฟิลเลอร์และมีการฝึกอบรมในด้านการแพทย์ความงามโดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าการฉีดจะทำได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
  3. ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องได้มาตรฐาน
    เลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) และมีการตรวจสอบความปลอดภัย รวมถึงเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน
  4. รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
    ควรมีรีวิวที่มาจากแหล่งข้อมูลที่เป็นกลางเพื่อการตัดสินใจที่เชื่อถือได้
  5. ฟิลเลอร์ที่หลากหลาย
    คลินิกที่ดีจะมีฟิลเลอร์จากหลายยี่ห้อและรุ่นให้เลือกใช้ เนื่องจากฟิลเลอร์แต่ละรุ่นเหมาะกับการฉีดในแต่ละตำแหน่งที่แตกต่างกัน

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ได้ผลลัพธ์สวยธรรมชาติ ไม่ใช่แค่เรื่องของยี่ห้อหรือราคา แต่ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ และความน่าเชื่อถือของคลินิกด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่

ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจแตกต่างกันไปตามยี่ห้อฟิลเลอร์ ปริมาณที่ใช้ และประสบการณ์ของแพทย์แต่ละที่ ที่ กังนัมคลินิก ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เริ่มต้นที่ 7,896 บาท

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

Play Video about รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

คำถามที่พบบ่อย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา VS เติมไขมันใต้ตา ต่างกันอย่างไร

ฟิลเลอร์เหมาะกับคนที่อยากเห็นผลเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถปรับแก้ได้ง่ายหากไม่พอใจ ส่วนการเติมไขมันใต้ตาเป็นการใช้ไขมันตัวเอง ฉีดแล้วจะอยู่ได้นานกว่า แต่ต้องมีการดูดไขมัน ผ่าตัดเล็ก และพักฟื้นมากกว่า

ถ้าหากรอยคล้ำใต้ตาจากภูมิแพ้ ฉีดฟิลเลอร์แล้วจะหายหรือไม่

ถ้าคล้ำใต้ตามาจากภูมิแพ้หรือเส้นเลือด การฉีดฟิลเลอร์อาจช่วยเรื่องการขยายตัวของเส้นเลือดบริเวณใต้ตา ทำให้รอยคล้ำใต้ตาจากภูมิแพ้ดูจางลง แต่ทั้งนี้หมอแนะนำว่าควรรักษาโรคภูมิแพ้ร่วมด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จำเป็นต้องฉีดคู่กับฟิลเลอร์หน้าแก้ม หรือไม่

กรณีถ้าร่องใต้ตาลึกจากโครงสร้างใบหน้า เช่น แก้มตอบ หรือโหนกแก้มยุบ แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดหน้าแก้มร่วมด้วย เพราะจะช่วยพยุงใต้ตาให้เรียบเนียนขึ้น ทำให้ผลลัพธ์ดูละมุน เป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานขึ้นด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว สามารถทำหัตถการอื่น ๆ ร่วมได้อีกหรือไม่?

สามารถทำหัตถการอื่นร่วมได้ เช่น เลเซอร์ ฉีดโบท็อกซ์ หรือเมโสหน้าใส แต่ควรเว้นระยะหลังฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวและลดความเสี่ยงการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ถาวรหรือไม่? สามารถสลายได้ไหม?

หากเป็นฟิลเลอร์แท้ หรือ HA จะไม่อยู่ถาวร โดยจะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลตัวเอง และสามารถสลายออกได้ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase หากต้องการปรับแก้หรือไม่พอใจในผลลัพธ์

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผู้ชายสามารถฉีดได้ไหม?

สามารถฉีดได้แน่นอน ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ได้จำกัดแค่ผู้หญิง สำหรับผู้ชายที่มีปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ หรือดูโทรมก็สามารถฉีดเพื่อให้หน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้นได้

หยุดฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วใต้ตาจะกลับมาคล้ำได้อีกไหม?

เมื่อฟิลเลอร์สลาย ใต้ตาอาจกลับมาคล้ำหรือยุบเหมือนเดิมได้ตามธรรมชาติ แต่จะไม่แย่ลงกว่าเดิมแน่นอน เพราะฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายตามธรรมชาติ ไม่ทำให้ผิวเสียหรือบางลง

กังนัมคลินิกขอขอบคุณทุกท่าน ที่ไว้วางใจ ให้เราช่วยดูแล

IDOL Review

ติดต่อกังนัมคลินิกทั้ง 40 สาขา
สะดวกสาขาไหนนัดได้เลยค่ะ ออนนี่รออยู่

กังนัมคลินิก สาขาสยามแควร์วัน ชั้น 6 ใกล้ธนาคารออมสิน
โทรศัพท์ : 090-665-3616. 091-196-6635. (Siam Square One)

ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตชั้น 3 โซนโรบินสัน
โทรศัพท์ : 093-626-2323. 093-669-2323. (Future Park Rangsit)

เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะชั้น 3 ใกล้ Dairy Queen
โทรศัพท์ : 082-461-9223. 082-461-9123. (Central Chaengwattana)

เมเจอร์ปิ่นเกล้าชั้น 2 ติด Never Say Cutzc
โทรศัพท์ : 084-228-3233. 084-238-3233. (Major Pinklao)

เซ็นทรัลปิ่นเกล้าชั้น 3 ใกล้วัตสัน
โทร : 062-396-2323. 062-359-2323. (Central Pinklao)

ชั้น 3 โซนกลาง ตรงข้ามกสิกร
โทร : 082-495-9123. 082-495-9132. (Seacon Square Srinakarin)

เซนทรัลลาดพร้าว ชั้น11 ติด Edufirst
โทรศัพท์ : 093-269-2323. 093-664-2323. (Central Ladprao)

(ติดแฟชั่นไอซ์แลนด์) ชั้น 3 ติดธนาคารกรุงไทย
โทรศัพท์ : 094-942-6932. 084-269-4536. (The Promenade)

เซ็นทรัลพระราม 2 ชั้น 3 ติดร้านชาตรามือ
โทรศัพท์ : 062-463-2323. 092-662-2323. (Central Rama 2)

สีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 5 ติดธนาคารกสิกรไทย
โทรศัพท์ : 062-498-2323. 062-449-2323. (Silom Complex)

เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 ชั้น 9 หน้าบันไดเลื่อน
โทรศัพท์ : 065-2462323 093-2452323 (CentralPlaza Grand Rama 9)

เซ็นทรัลพระราม 3 ชั้น 4 ใกล้ธนาคารกรุงศรี
โทรศัพท์ : 092-3592323 092-4692323

เดอะมอลล์ ท่าพระ ชั้น 11 ติดกับคลินิกกายภาพ
โทรศัพท์ : 065-4492323 098-5292323

เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา ชั้น 3 ใกล้ Fitness First
โทรศัพท์ : 063-6492323 062-5982323

ห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชั้น 14 ตรงข้ามห้องประชุม
โทรศัพท์ : 092-6492323 098-4452323

ห้างซีคอนบางแค ชั้น 3 ใกล้ banana IT
โทรศัพท์ : 062-529-2323. 062-395-2323.

ห้างเซ็นทรัลเวสเกต ชั้น 2 ตรงข้ามวัตสัน
โทรศัพท์ : 098-469-2323. 098-426-2323.

ห้างเซ็นทรัลศาลายา ชั้น2 โซน Fashion Plus
โทรศัพท์ : 063-265-2323. 064-936-2323.

เทอมินอล 21 ชั้น ชั้น 3 โซน Japan
โทรศัพท์ : 062-4522323. 063-615-2323.

เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช ชั้น4 โซน B
โทรศัพท์ : 065-614-1695. 093-226-2323.

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุดรธานี ชั้น 3
โทรศัพท์ : 061-496-2323.

ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ชั้น 1
โทรศัพท์ : 092-553-2323.

ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราช ชั้น 2
โทรศัพท์ : 098-245-2323.

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ ชั้น 4
โทรศัพท์ : 061-538-2323, 062-352-2323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลรามอินทรา ชั้น 3
โทรศัพท์ : 065-495-2323, 092-946-2323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอยุธยา ชั้น 1
โทรศัพท์ : 098-693-2323, 098-696-2323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ชั้น 3
โทรศัพท์ : 063-238-2323, 092-952-2323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ ชั้น 4
โทรศัพท์ : 092-952-2323, 093-516-2323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลขอนแก่น ชั้น 2
โทรศัพท์ : 063-269-2323, 063-263-2323

ศูนย์การค้าเดอะมอลบางกะปิ ชั้น 7
โทรศัพท์ : 061-554-2323, 062-425-2323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี ชั้น 2
โทรศัพท์ : 092-9162323, 093-2492323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชลบุรี ชั้น 2
โทรศัพท์ : 092-3942323, 092-3922323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุบลราชธานี ชั้น 2
โทรศัพท์ : 092-4962323, 062-4642323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์วิลล์ ชั้น 1
โทรศัพท์ : 092-4592323, 062-4262323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครสวรรค์
โทรศัพท์ : 092-5192323, 092-5262323

ศูนย์การค้เซ็นทรัลระยอง
โทรศัพท์ : 064-9352323 , 065-2642323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม
โทรศัพท์ : 063-6192323 , 065-5322323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครศรีธรรมราช
โทรศัพท์ : 0636452323, 0616152323

กังนัมคลินิก สาขาสยามแควร์วัน ชั้น 6 ใกล้ธนาคารออมสิน
โทรศัพท์ : 090-665-3616. 091-196-6635. (Siam Square One)

ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตชั้น 3 โซนโรบินสัน
โทรศัพท์ : 093-626-2323. 093-669-2323. (Future Park Rangsit)

เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะชั้น 3 ใกล้ Dairy Queen
โทรศัพท์ : 082-461-9223. 082-461-9123. (Central Chaengwattana)

เมเจอร์ปิ่นเกล้าชั้น 2 ติด Never Say Cutzc
โทรศัพท์ : 084-228-3233. 084-238-3233. (Major Pinklao)

เซ็นทรัลปิ่นเกล้าชั้น 3 ใกล้วัตสัน
โทร : 062-396-2323. 062-359-2323. (Central Pinklao)

ชั้น 3 โซนกลาง ตรงข้ามกสิกร
โทร : 082-495-9123. 082-495-9132. (Seacon Square Srinakarin)

เซนทรัลลาดพร้าว ชั้น11 ติด Edufirst
โทรศัพท์ : 093-269-2323. 093-664-2323. (Central Ladprao)

(ติดแฟชั่นไอซ์แลนด์) ชั้น 3 ติดธนาคารกรุงไทย
โทรศัพท์ : 094-942-6932. 084-269-4536. (The Promenade)

เซ็นทรัลพระราม 2 ชั้น 3 ติดร้านชาตรามือ
โทรศัพท์ : 062-463-2323. 092-662-2323. (Central Rama 2)

สีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 5 ติดธนาคารกสิกรไทย
โทรศัพท์ : 062-498-2323. 062-449-2323. (Silom Complex)

เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 ชั้น 9 หน้าบันไดเลื่อน
โทรศัพท์ : 065-2462323 093-2452323 (CentralPlaza Grand Rama 9)

เซ็นทรัลพระราม 3 ชั้น 4 ใกล้ธนาคารกรุงศรี
โทรศัพท์ : 092-3592323 092-4692323

เดอะมอลล์ ท่าพระ ชั้น 11 ติดกับคลินิกกายภาพ
โทรศัพท์ : 065-4492323 098-5292323

เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา ชั้น 3 ใกล้ Fitness First
โทรศัพท์ : 063-6492323 062-5982323

ห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชั้น 14 ตรงข้ามห้องประชุม
โทรศัพท์ : 092-6492323 098-4452323

ห้างซีคอนบางแค ชั้น 3 ใกล้ banana IT
โทรศัพท์ : 062-529-2323. 062-395-2323.

ห้างเซ็นทรัลเวสเกต ชั้น 2 ตรงข้ามวัตสัน
โทรศัพท์ : 098-469-2323. 098-426-2323.

ห้างเซ็นทรัลศาลายา ชั้น2 โซน Fashion Plus
โทรศัพท์ : 063-265-2323. 064-936-2323.

เทอมินอล 21 ชั้น ชั้น 3 โซน Japan
โทรศัพท์ : 062-4522323. 063-615-2323.

เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช ชั้น4 โซน B
โทรศัพท์ : 065-614-1695. 093-226-2323.

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุดรธานี ชั้น 3
โทรศัพท์ : 061-496-2323.

ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ชั้น 1
โทรศัพท์ : 092-553-2323.

ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราช ชั้น 2
โทรศัพท์ : 098-245-2323.

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ ชั้น 4
โทรศัพท์ : 061-538-2323, 062-352-2323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลรามอินทรา ชั้น 3
โทรศัพท์ : 065-495-2323, 092-946-2323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอยุธยา ชั้น 1
โทรศัพท์ : 098-693-2323, 098-696-2323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ชั้น 3
โทรศัพท์ : 063-238-2323, 092-952-2323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ ชั้น 4
โทรศัพท์ : 092-952-2323, 093-516-2323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลขอนแก่น ชั้น 2
โทรศัพท์ : 063-269-2323, 063-263-2323

ศูนย์การค้าเดอะมอลบางกะปิ ชั้น 7
โทรศัพท์ : 061-554-2323, 062-425-2323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี ชั้น 2
โทรศัพท์ : 092-9162323, 093-2492323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชลบุรี ชั้น 2
โทรศัพท์ : 092-3942323, 092-3922323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุบลราชธานี ชั้น 2
โทรศัพท์ : 092-4962323, 062-4642323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์วิลล์ ชั้น 1
โทรศัพท์ : 092-4592323, 062-4262323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครสวรรค์
โทรศัพท์ : 092-5192323, 092-5262323

ศูนย์การค้เซ็นทรัลระยอง
โทรศัพท์ : 064-9352323 , 065-2642323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม
โทรศัพท์ : 063-6192323 , 065-5322323

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครศรีธรรมราช
โทรศัพท์ : 0636452323, 0616152323

ศูนย์การค้าเมกาบางนา ชัน 1
โทรศัพท์ : 098-994-2323, 098-894-2323

ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ชั้น 7
โทรศัพท์ : 0659532323, 0922622323

มหานครคิวบ์ ชั้น 5
โทรศัพท์ : 062-2462323